เครื่องสังเค็ดในงานพระเมรุ ที่ทุกงานจำเป็นต้องมี

04:40 Mali_Smile1978 0 Comments

       
ที่มาภาพ: https://goo.gl/KdXpJD


       สังเค็ด เป็นชื่่อเรียกสิ่งของที่จัดทำเป็นพิเศษสำหรับถวายพระสงฆ์ในงานเผาศพโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่จะเป็นของที่หนักหรือครุภัณฑ์แข็งแรงทนทาน คล้ายเป็นของที่ระลึกในงานเผาศพนั้นๆ เช่น ตู้หนังสือ โต๊ะเขียนหนังสือ ตั่งเตียง โต๊ะหมู่ ธรรมาสน์เล็ก เป็นต้น
        คำว่าเครื่องสังเค็ดเป็นคำโบราณ มีความหมายว่า "ของชำร่วย" แต่เรียกว่า "ของที่ระลึก" ในงานอวมงคล

       สังเค็ด คือ ทานวัตถุที่ถวายแก่สงฆ์ที่มาเทศน์หรือสวดบังสุกุลเมื่อเวลาปลงศพ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย ทานวัตถุนั้นอาจเป็นตู้ โต๊ะ ตั่ง เตียง หรือข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ ประเพณีทำสิ่งของถวายพระนี้ถือตามประเพณีไทยแต่เดิม เมื่อผู้ใดตาย ของใช้ประจำตัวผู้ตายอย่างที่นอน หมอน มุ้ง เสื้อผ้า ฯลฯ มักไม่เก็บให้คนอื่นในบ้านใช้ต่อไป หากพอจะถวายพระได้ก็ถวายไป ถ้าเห็นว่าถวายไม่ได้อาจให้ทานแก่คนยากจน แม้กระทั่งเรือนของผู้ตาย บางครอบครัวอาจรื้อถวายวัดไปด้วย สำหรับผู้มีอันจะกิน

       นอกจากข้าวของส่วนตัวของผู้ตายแล้ว อาจอุทิศสิ่งของเพิ่มเติม เช่น ตู้ โต๊ะ เตียง สมทบไปด้วย เพื่ออุทิศให้ผู้ตายมีเครื่องใช้ไม้สอยบริบูรณ์ และเป็นการได้บุญแก่ผู้อยู่ เพราะฉะนั้นข้าวของต่าง ๆ ที่อุทิศในงานปลงศพจึงล้วนเป็นสังเค็ดหรือเครื่องสังเค็ดทั้งสิ้น 

       สังเค็ด นิยมจัดถวายในงานเผาศพหรืองานออกเมรุเจ้านายและพระเถระผู้ใหญ่ที่มีผู้เคารพนับถือมาก และจัดถวายเฉพาะแก่พระผู้ใหญ่ที่อาราธนามาเทศน์บ้าง พิจารณาผ้ามหาบังสุกุลบนเมรุบ้าง


เครื่องสังเค็ด งานพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ 
       ตามพระราชประเพณีโบราณ ภายหลังการถวายพระเพลิงพระบรมศพ หรือพระศพ เสร็จสิ้นลง พระเมรุมาศ หรือพระเมรุส่วนที่ถวายเพลิงจะถูกรื้อนำไปสร้างพระอาราม เพื่ออุทิศเป็นพระราชกุศล ในอดีตดังเช่นงานพระเมรุสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ นำพระเมรุไปสร้างเป็นโรงพยาบาลศิริราชมาจวบปัจจุบัน เพื่อเป็นสิ่งระลึกถึงพระกรุณาธิคุณ

       นอกจากนี้ ในงานพระราชทานเพลิงพระบรมศพ หรือพระศพ จำต้องมี "เครื่องสังเค็ด" หรือของที่ระลึกในทุกครั้ง 
       อาจารย์ณัฏฐภัทร จันทวิช นักโบราณคดี ๑๐ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ให้ข้อมูลเรื่องเครื่องสังเค็ดในโบราณราชประเพณี ว่า เดิมจะอยู่ในริ้วขบวนพระราชพิธีฯ เป็นลำดับแรก โดยมีสัตว์หิมพานต์มงคลต่างๆ ประมาณ ๒๐ คู่ เช่น กินนร กินรี อัปสร สิงหะ ช้าง สิงห์ แรด และระมาด อยู่ในริ้วขบวน หลังสัตว์หิมพานต์เหล่านี้จะมีบุษบกสำหรับใส่เครื่องสังเค็ด เครื่องอภัยทาน เครื่องน้ำหอม น้ำกุหลาบ น้ำกระแจะจันทน์ สำหรับใช้สรงพระศพที่พระเมรุ 

       เมื่อริ้วขบวนเคลื่อนถึงยังแนวรั้วราชวัติ สัตว์หิมพานต์จะถูกทิ้งไว้รอบๆ แนวรั้วราชวัติ ส่วนเครื่องต่างๆ ที่อยู่ในบุษบกจะนำลง แต่ปัจจุบันส่วนนี้ถูกตัดออกไป ไม่มีในริ้วขบวน

       เครื่องสังเค็ดในงานพระเมรุ "สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์" สำนักพระราชวังจัดเครื่องสังเค็ด ประกอบด้วย 


ตู้สังเค็ด

"ตู้สังเค็ด" 
       บรรจุหนังสือสารานุกรมสำหรับเยาวชนและหนังสืออื่นๆ จำนวน ๓๐ ชุด สำหรับถวายพระอารามหลวง ๓๐ พระอาราม ได้แก่ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดเทพศิรินทราวาส วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดสุทัศนเทพวราราม วัดอรุณราชวราราม วัดราชาธิวาส วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดมกุฏกษัตริยาราม วัดราชโอรสาราม วัดนิเวศธรรมประวัติ วัดสุวรรณดาราราม 
วัดพระศรีมหาธาตุ วัดพระปฐมเจดีย์ วัดสระเกศ วัดอนงคาราม วัดพิชัยญาติ วัดปทุมวนาราม วัดชนะสงคราม วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ วัดสัมพันธวงศ์ วัดสุวรรณาราม วัดโพธิ์แมน (วัดจีน) วัดกุศลสมาคร (วัดญวน) วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ วัดตำหนักใต้ วัดบางไส้ไก่ และวัดแคนอก


       ตู้สังเค็ดเป็นตู้ไม้สี่เหลี่ยมทาสีน้ำตาลแดง มีขาสำหรับรองรับน้ำหนัก ๔ ขา ขนาดกว้าง ๘๒ เซนติเมตร ลึก ๔๑ เซนติเมตร สูง ๑๒๖ เซนติเมตร ขอบตู้ด้านล่างส่วนที่ติดกับขาตู้ประดับไม้แกะสลักลายปิดทอง ตัวตู้สังเค็ดเปิดด้านหน้าด้วยบานกระจก ๒ บาน ผนังตู้แต่ละด้านกรุกระจกใส หน้ากระดานประดับพระนามย่อ "กว" รูปหยดน้ำ


สามหาบ
"สำรับภัตตาหารสามหาบ" 
       ใน ๑ ชุด ประกอบด้วย โตกใหญ่ (เครื่องคาว) โตกกลาง (เครื่องหวาน) และโตกเล็ก สำหรับถวายพระสงฆ์ที่รับสำรับภัตตาหารสามหาบ ๖ วัด ได้แก่ วัดสระเกศ วัดชนะสงคราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม 


ย่ามที่ระลึก
"พัดรองที่ระลึก ผ้ากราบและย่าม (สีดำ)" 
       จัดทำ ๑๗๕ ชุด ถวายพระเทศน์ พระสวดศราทธพรต บรรพชิตจีนและญวน พระสงฆ์สดับปกรณ์ และถวายพระพิธีธรรม ทั้งสิ้น ๑๐ วัด ได้แก่ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดราชสิทธาราม วัดระฆังโฆสิตาราม วัดอนงคาราม วัดประยุรวงศาวาส วัดสระเกศวรวิหาร วัดจักรวรรดิราชาวาส วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ และวัดสุทัศนเทพวราราม 
       โดยพัดรองที่ระลึกสีดำมีพื้นกำมะหยี่ดำขอบกุ๊นผ้าสีแดง รวมถึงผ้ากราบและย่าม (สีดำ) จะถวายในงานพระราชกุศลออกพระเมรุ


พัดรอง

"พัดรองที่ระลึก ผ้ากราบและย่าม (สีแดง)" 
       จัดทำ ๔๕ ชุด สำหรับถวายพระสวดพระพุทธมนต์ พระเทศน์ พระรับอนุโมทนา และพระสดับปกรณ์ โดยพัดรองที่ระลึกสีแดงมีพื้นกำมะหยี่แดงขอบกุ๊นผ้าสีดำหรือน้ำเงินเข้ม รวมถึงผ้ากราบและย่าม (สีแดง) จะถวายในงานพระราชกุศลพระอัฐิ

       นอกเหนือจากเครื่องสังเค็ดที่ออกโดยสำนักพระราชวัง ทางมหาเถรสมาคมได้ถวายพระไตรปิฎกภาษาบาลีและภาษาไทย รวม ๙๐ เล่ม พร้อมตู้ เป็นเครื่องสังเค็ด โดยเสด็จพระราชกุศลจำนวน ๓๐ ชุด ตามจำนวนเครื่องสังเค็ดที่สำนักพระราชวังจัดสร้าง

       อาจารย์ณัฏฐภัทรให้รายละเอียดด้วยว่า เครื่องสังเค็ดในงานพระเมรุ ที่ทุกงานจำเป็นต้องมี คือ พัดรองที่ระลึกสำหรับถวายพระสงฆ์ ลักษณะใกล้เคียงกับตาลปัตร แต่ใช้เฉพาะงานพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โปรดให้เรียกว่า "พัดรอง" และเป็นที่น่าสังเกตว่า เครื่องสังเค็ดที่มอบให้วัดต่างๆ จะพระราชทานไม่ยกเว้นแต่ศาสนาพุทธเท่านั้น ศาสนาอื่นที่มีศาสนสถานที่สำคัญก็จะได้รับพระราชทานเครื่องสังเค็ดเช่นกัน ดังในงานพระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระราชทานเชิงเทียนให้แก่โบสถ์คริสต์ และพระราชทานกระถางธูปให้วัดจีนที่สำคัญ

       ธรรมเนียมนิยมการสร้างถวายเครื่องสังเค็ด เริ่มขึ้นหลังจากงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เป็นต้นมา โดยเครื่องสังเค็ดจะถวายไปยังวัดวาอารามต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีหลายประเภทด้วยกัน เช่น ธรรมาสน์เทศน์ ธรรมาสน์สวด หนังสือปาติโมกข์พร้อมตู้ เทียนสลักพร้อมตู้ลายทอง หีบใส่หนังสือสวด หนังสือเทศน์ พัดรอง ย่าม ผ้ากราบ และภาชนะเครื่องใช้ต่างๆ ของสงฆ์

       การจัดทำของที่ระลึกในงานพระเมรุมาศ หรืองานพระเมรุ นอกจากจะมีขึ้นสำหรับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินแล้ว ยังแพร่หลายลงมาในระดับประชาชน จนเป็นประเพณีปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้  


ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง:
1. http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000133834
2. http://www.oknation.net/blog/print.php?id=350311
3. http://www.sarakadee.com/knowledge/2005/01/ doyouknow_1.htm
4. http://www.kalyanamitra.org/daily/data11_47/kamwat_ 26_11_04. html


0 ความคิดเห็น: