หัวใจรักภักดีของหญิงชรา "ดอกไม้จากหัวใจ”

22:04 Mali_Smile1978 34 Comments

ที่มาภาพ: https://goo.gl/6qisqD


“พระมหากษัตริย์เป็นสถาบันสูงสุดของประเทศ เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนชาวไทยทุกคน และทรงมีพระมหา กรุณาธิคุณต่อประเทศชาติของเราเป็นล้นพ้น ดังนั้นการที่ได้มีโอกาสทำงานถวายพระองค์โดยตรงเช่นนี้ นับเป็นเกียรติอันสูงสุด และนับว่าเป็นบุญอย่างยิ่งของผมและเจ้าหน้าที่ทุกคนในสภาพัฒน์”

ทรงงานอย่างหนัก... ทรงเสียสละเพื่อช่วยประชาชนในถิ่นทุรกันดาร

       โดยส่วนตัวผมเอง ผมมีประสบการณ์ที่ถือว่าเป็นบุญของผมที่ได้มีโอกาสเห็นการทรงงานอย่างหนักและทรงเสียสละของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงเข้าถึงประชาชนที่อยู่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร นั่นคือในระหว่างที่ผมเตรียมตัวออกบวช ผมได้มีโอกาสเดินทางไปพักอาศัยอยู่ตามวัดต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนก่อนตัดสินใจว่าจะบวชที่วัดใด ซึ่งหนึ่งในวัดที่ผมได้ไปอาศัยอยู่ ก็คือวัดถ้ำอภัยทรงธรรมของท่านอาจารย์วัน อยู่ที่อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร ซึ่งวัดนี้ตั้งอยู่ในบริเวณเขตยุทธศาสตร์ และเป็นรอยต่อระหว่างเทือกเขาภูพานและภูเรือต่อกับพื้นที่ราบที่เรียกว่าพื้นที่สีแดง และขณะนั้นก็ยังมีการต่อสู้กันอย่างหนักระหว่างผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์กับฝ่ายบ้านเมืองเป็นประจำ

        ในขณะที่ผมนั่งทำวัตรอยู่ตอนกลางคืนก็ปรากฏว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ แล้วก็มีแสงไฟวูบวาบเข้ามาในบริเวณวัด ปรากฏว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา หลังจากทรงตรวจพื้นที่และเยี่ยมประชาชนแล้ว ได้เสด็จฯ มาเยี่ยมท่านอาจารย์วันต่อโดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ใดทราบ พระองค์ทรงร่วมกับท่านอาจารย์วันซึ่งเป็นพระที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ในการวางแผนสนับสนุนให้วัดเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเพื่อประโยชน์ของชาวบ้าน ซึ่งในขณะนั้นชาวบ้านในแถบนั้นมีฐานะยากจนและลำบากมาก ซึ่งผมยังคงจำได้ดีว่าในระยะไม่ห่างจากวัดเท่าไร มีสถานีตำรวจที่ถูกผู้ก่อการร้ายเผาและยังมีควันไฟคุกรุ่นอยู่ แต่พระองค์ก็ไม่ได้ทรงหวาดหวั่นต่อภยันอันตรายแม้แต่น้อย   

        จึงเห็นได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราได้ทรงเข้าถึงได้หมด จึงนับเป็นโชคดีของประเทศไทยที่เรามีพระมหากษัตริย์ที่ทรงเสียสละ และทรงงานอย่างหนักเพื่อเข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริง

ข้อมูลบางตอนจากบทสัมภาษณ์ ดร.เสนาะ อูนากูล
อดีตรองนายกรัฐมนตรี
อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ


“ดอกไม้จากหัวใจ”


        ที่นครพนม บนเส้นทางรับเสด็จตรงสามแยกชยางกูร-เรณูนคร บ่ายวันที่ ๑๓ พ.ย. ๒๔๙๘ อาณัติ บุนนาค หัวหน้าส่วนช่างภาพประจำพระองค์ ได้บันทึกภาพในวินาทีสำคัญที่กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ภาพหนึ่งของประเทศ  ภาพที่พูดได้มากกว่าคำพูดหนึ่งล้านคำ


        วันนั้น หลังจากทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารเสร็จสิ้นในช่วงเช้าแล้ว ทั้ง ๒ พระองค์ได้เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งกลับไปประทับแรม ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ราษฎรที่รู้ข่าวก็พากันอุ้มลูก จูงหลานหอบกันมารับเสด็จที่ริมถนนอย่างเนืองแน่น ดังเช่นครอบครัว จันท์นิตย์ ที่ลูกหลานช่วยกันนำ แม่ตุ้ม จันทนิตย์ วัย ๑๐๒ ปี ไปรอรับเสด็จ ณ จุดรับเสด็จห่างจากบ้าน ๗๐๐ เมตร โดยลูกหลานได้จัดหาดอกบัวสายสีชมพูให้แม่เฒ่าจำนวน ๓ ดอก และพาออกไปรอที่แถวหน้าสุดเพื่อให้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทที่สุด

        เปลวแดดร้อนแรงตั้งแต่เช้าจนสาย เที่ยงจนบ่าย แผดเผาจนดอกบัวสายในมือเหี่ยวโรย แต่หัวใจรักภักดีของหญิงชรายังเบิกบาน เมื่อเสด็จฯ มาถึงตรงหน้า แม่เฒ่าได้ยกดอกบัวสายโรยราสามดอกนั้นขึ้นจบเหนือศีรษะแสดงความจงรักภักดี อย่างสุดซึ้ง พระเจ้าแผ่นดินทรงโน้มพระองค์อย่างต่ำที่สุด จนพระพักตร์แนบชิดกับศีรษะของแม่เฒ่า ทรงแย้มพระสรวลอย่างเอ็นดู พระหัตถ์แตะมือกร้านคล้ำของเกษตรกรชราชาวอีสานอยางอ่อนโยน


        เป็นคำบรรยายเหมือนไม่จำเป็น สำหรับภาพที่ไม่จำเป็นต้องบรรยาย ไม่มีใครรู้ว่าทรงกระซิบคำใดกับแม่เฒ่า แต่แน่นอนว่าแม่เฒ่าไม่มีวันลืม 

        เช่นเดียวกับที่ในหลวงไม่ทรงลืมราษฎรคนสำคัญที่ทรงพบริมถนนวันนั้น หลานและเหลนของแม่เฒ่าเล่าว่า “หลังจากเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ แล้ว ทางสำนักพระราชวังได้ส่งภาพรับเสด็จของแม่เฒ่าตุ้ม พร้อมทั้งพระบรมรูปหล่อด้วยปูนพลาสเตอร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานผ่านมาทางอำเภอพระธาตุพนมให้แม่เฒ่าตุ้มไว้เป็นที่ระลึก”  พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ อาจมีส่วนชุบชูชีวิตให้แม่เฒ่ายืนยาวขึ้นอีกด้วยความสุขต่อมาอีกถึงสามปีเต็มๆ แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ ราษฎรผู้โชคดีที่สุดคนหนึ่งในรัชกาลที่ ๙ สิ้นอายุขัยอย่างสงบด้วยโรคชราเมื่ออายุได้ ๑๐๕ ปี

ข้อมูลจาก “แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์” 
ภาคพิเศษโดย คุณหญิงศรีนาถ สุริยะ วารสารไทย 


ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง
1.http://www.obec.go.th/sites/obec.go.th/files/document/attachment/17892/183228.pdf
2.https://goo.gl/bgSZwk

34 ความคิดเห็น:

  1. น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

    ตอบลบ
  2. เสด็จสู่ฟากฟ้าสุราลัย
    พระมหากรุณาธิคุณจารึกในใจไทยชั่วกาล
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

    ตอบลบ
  3. น้อมเกล้าฯถวายอาลัย
    ส่งดวงพระวิญญาณพระองค์
    เสด็จฯสู่สวรรคาลัย

    ตอบลบ
  4. ขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

    ตอบลบ
  5. ขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

    ตอบลบ
  6. ขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

    ตอบลบ
  7. สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์
    น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

    เสด็จสู่ฟากฟ้าสุราลัย
    พระมหากรุณาธิคุณจารึกในใจไทยชั่วกาล

    ตอบลบ
  8. น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
    ตอบ

    ตอบลบ
  9. สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์
    น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
    ข้าพระพุทธเจ้า

    ตอบลบ
  10. สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์
    น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
    ข้าพระพุทธเจ้า

    ตอบลบ
  11. เสด็จสู่สวรรคาลัยผองพสกนิกรชาวไทย
    น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์

    ตอบลบ
  12. พระองค์ทรงเป็นอัครศาสนูปภัมภก
    ยอยกพระพุทธศาสนา

    ตอบลบ


  13. เสด็จสู่ฟากฟ้า สุราลัย พระมหากรุณา ธิคุณ จารึกในใจไทยชั่วกาล ข้า...พระพุทธเจ้า

    ตอบลบ
  14. พระองค์ทรงเป็นอัครศาสนูปภัมภก
    ยอยกพระพุทธศาสนา ขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

    ตอบลบ
  15. ผืนดินที่แห้งแล้งกลับชุ่มชื่นด้วยรอยยิ้มและท่าทีเอื้ออาทร ธ ทรงสถิตย์อยู่ในใจของปวงชนตลอดกาล ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

    ตอบลบ
  16. พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิกคุณ

    ตอบลบ
  17. พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย
    น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

    ตอบลบ
  18. สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์
    น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

    ตอบลบ
  19. พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

    ตอบลบ
  20. สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเสด็จสู่สวรรคาลัย

    ตอบลบ
  21. สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเสด็จสู่สวรรคาลัย

    ตอบลบ
  22. สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์
    น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

    ตอบลบ
  23. พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย
    น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

    ตอบลบ
  24. พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย
    น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

    ตอบลบ
  25. น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

    ตอบลบ
  26. ชาติของเราชาติไทยใครก็รู้
    ชาติเคยสู้ผ่านศึกเหตุชั่วร้าย
    ชาตินักรบต่อสู้จนชีพวาย
    ชาติอยู่ได้แม้ตายก็ยอมพลี
    ชาติไทยเราถึงคราวน่าใจหาย
    ชาติไทยได้สูญสิ้นกษัตริย์ศรี
    ชาติไทยเสียสิ้นแล้วองค์จักรี
    ชาติไทยนี้เกิดทุกข์ทั่วถิ่นไทย
    ชาติเคยอยู่ร่วมกันฉันน้องพี่
    ชาติสุขศรีประชาคงสดใส
    ชาติจะอยู่คู่โลกคงอีกไกล
    ชาติวิไลผองไทยคงเบิกบาน
    ชาติวันนี้ผองเราต้องร่วมช่วย
    ชาติไม่ม้วยร่วมด้วยช่วยกันสาน
    ชาติจะสุขร่มเย็นตลอดกาล
    ชาติคือบ้านวิมานสำราญใจ...

    ตอบลบ
  27. เสด็จสู่สวรรคาลัย

    ตอบลบ
  28. กราบถวายบังคมลาด้วยความอาลัย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ขอทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

    ตอบลบ
  29. พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย
    น้อมสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

    ตอบลบ
  30. สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์
    น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
    ข้าพระพุทธเจ้านายชาญณรงค์ โอภาสกิจ

    ตอบลบ
  31. เสด็จสู่สวรรคาลัยผองพสกนิกรชาวไทย
    น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์

    ตอบลบ
  32. ขอน้อมเกล้าฯส่งเส็ดจสู่สวรรคาลัย
    น้อมรำลึกถึงกษัตริย์ผู้ทรงธรรม
    พระกรุณาธิคุณปกเกล้าชาวไทย

    ตอบลบ
  33. เสด็จสู่สวรรคาลัยผองพสกนิกรชาวไทย
    น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์

    ตอบลบ
  34. เสด็จสู่สวรรคาลัยผองพสกนิกรชาวไทย
    น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์

    ตอบลบ