แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ทำลายศรัทธา แสดงบทความทั้งหมด

วัดสอนแต่เรื่อง #ฟอกกาย #ฟอกวาจาและ #ฟอกใจให้สูงขึ้น

     
     ที่ผ่านมาหลายเดือนจวบจนปัจจุบัน บนหน้าสื่อหลักๆ สื่อออนไลน์ยังคงมุ่งมั่นสร้างวาทะกรรมว่าวัด #ฟอกเงิน ว่าพระ #ไม่สมถะ สร้างความเสียหายและเสื่อมเสียให้กับวัด บั่นทอนศรัทธาชาวพุทธและสร้างความสั่นคลอนให้เกิดขึ้นต่อสถาบันศาสนาซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์รวมใจของคนในชาติ สื่อเสี้ยมและผู้บงการอยู่เบื้องหลังของแผนการอันเลวร้ายเพื่อหวังทำลายศรัทธาชาวพุทธ ตั้งใจจะขุดรากถอนโคนพุทธศาสนาให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทยหรืออย่างไร!!!???


ขอย้ำชัดๆ ว่า วัดสอนแต่เรื่อง #ฟอกกาย #ฟอกวาจาและ #ฟอกใจให้สูงขึ้น

     แล้ววัดใช้หลักธรรมอะไรเพื่อ #ฟอกกาย วาจา ใจ ให้สะอาด สงบและทำให้จิตใจสูงขึ้น???

     หลักการ #ฟอกจิตใจให้สะอาด ในทางพุทธศาสนามีหลักง่ายๆ ๓ อย่าง คือ การให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา



๑. การให้ทาน เป็นวิธี #ฟอกใจ ขั้นต้น
การให้ทาน คือการให้ที่ไม่หวังผลตอบแทนโดยหมายให้ผู้ได้รับได้พ้นจากทุกข์
     ซึ่งเป็นวิธีช่วย #ฟอกใจขั้นพื้นฐาน เพื่อขจัดอำนาจมืด ยางเหนียวหนืดที่ครอบงำจิตใจ คือความตระหนี่ ด้วยวิถีของการให้  เริ่มตั้งแต่การให้วัตถุ สิ่งของ หรือเงินเป็นทาน (อามิสทาน) การสอนให้ธรรมะเป็นความรู้เป็นทาน (ธรรมทาน) และสละอารมณ์ไม่ดีขุ่นมัว การให้อภัยในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ดีกับเรา ไม่จองเวร หรือพยาบาทกัน (อภัยทาน) 


ควรบำเพ็ญ ซึ่งทาน คือการให้
ท่านว่าไว้ สวยงาม สามสถาน
หนึ่งให้ของ สองธรรมะ ชนะมาร
อภัยทาน ที่สาม งามเหลือเกิน

(ที่มาบทกลอน: https://goo.gl/MPR78E)

๒. การรักษาศีล เป็นวิธี #ฟอกกาย วาจา ใจ ขั้นกลาง 
     ศีลจะทำให้จิตใจสะอาดบริสุทธิ์ได้มากกว่าทานเพราะว่า การรักษาศีลนั้นเป็นการเพียรพยายามจะระงับสิ่งที่จะเกิดเป็นโทษทางกายและวาจาไม่ให้มันเกิดขึ้น

     ศีล แปลว่า ปกติ เป็นวินัยทางธรรมเบื้องต้นของคน เป็นเครื่องจำแนกคนออกจากสัตว์ ดังนั้น เราทุกคนควรรักษาศีล ๕ ได้แก่ ไม่ฆ่าสัตว์, ไม่ลักทรัพย์, การดำรงตนอยู่ในคู่ครองของตัวเอง, ไม่พูดปด พูดส่อเสียด หรือแม้แต่พูดคำหยาบ และไม่ดื่มสุราให้ขาดสติเป็นเหตุให้สติไม่ตั้งมั่นจิตใจเศร้าหมองลง

๓. สมาธิ เป็นวิธี #ฟอกจิตใจระดับสูงขึ้นมา 
     การเจริญภาวนาในพุทธศาสนาเป็นการทำความสะอาดจิตอย่างละเอียดเป็นการ #ซักฟอกจิตให้สะอาดจนถึงที่สุดได้ คือ ทำให้จิตเบาบางไปจากสิ่งปรุงแต่ง (กิเลสทั้งหลาย) จนกระทั่งหมดกิเลสได้ในที่สุด

     บุคคลที่หมั่นเพียร #ฟอกจิตใจ ตนเองให้สะอาด สูงส่ง บริสุทธิ์อยู่เสมอแล้ว บุคคลนั้นจะอยากถอยหลังลงมาเกลือกกลั้วสิ่งสกปรก สิ่งที่ไม่สะอาด คือกิเลสอีกหรือไม่ 
     เปรียบเหมือน มีชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อผ้าตรากตรำทำงานหนักทั้งวัน เหงื่อไคลไหลชุ่มทั่วตัว เสื้อผ้าสกปรกเหม็นคาวกลิ่นเหงื่อไคล พอถึงบ้านจึงรีบอาบน้ำชำระความสะอาดร่างกาย ถูฟอกด้วยสบู่ เช็ดตัวให้สะอาด โรยแป้งทำให้กลิ่นกายหอมสดชื่น เขาจึงมีความสุข ถามว่าชายคนนี้จะปรารถนากลับมาสวมเสื้อผ้าชุดเก่าที่สกปรก มีกลิ่นเหม็นอับและชุ่มด้วยเหงื่อไคล อีกหรือไม่??? ฉันใดฉันนั้น



     ปุถุชนบางคน ผู้ยังเต็มไปด้วยกิเลส ใช้สายตา ทัศนะของตนอันเอิ่มอาบด้วยกิเลสเจตนาร้าย อคติและความไม่รู้ มาว่าพระผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ให้เกิดความเสียหาย การทำเยี่ยงนี้มันใช่เหรอ?

     สื่อเสี้ยม หรือคนใจมืดบอดที่บงการอยู่เบื้องหลังใช้สื่อเป็นเครื่องมือ ใช้คนหน้าเดิมๆ ไม่กี่คน ที่วันๆ ไม่รู้ว่าทำมาหากินอะไร? ขยันออกมา สร้างวาทกรรมอันร้ายกาจให้กับวัด ให้กับพระผู้ที่ท่านประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ใส่ร้าย ยัดข้อหา ว่า พระ/วัดฟอกเงิน ทั้งที่จากจุดเริ่มต้นที่ถูกต้อง  คือการรับเงินบริจาคจากศรัทธาญาติโยมเพื่อนำมาใช้ในงานพระศาสนาเท่านั้นเอง



     ถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า จะพยายามชักฟ้าให้ต่ำตามแรงปรารถนาของตน ฟ้าหาต่ำลงไม่ แต่บุคคลผู้มีเจตนาร้ายนั้นต่างหาก ยิ่งถ่ม ยิ่งอยากดึงฟ้าลง ตัวเองยิ่งต่ำเตี้ยถอยลงเรื่อยๆ ทุกอนุวินาที