“รอดตายเพราะสวดมนต์” อานิสงส์ของการสวดมนต์ที่เกิดขึ้นจริง

02:19 Mali_Smile1978 16 Comments


“รอดตายเพราะสวดมนต์”
อานิสงส์ของการสวดมนต์ที่เกิดขึ้นจริง

        เรื่องราว อานิสงส์ของการสวดมนต์ ต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับ คุณวิชาญ ฤทธิรงค์ อดีตประธานชมรมพุทธศาสตร์ ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ด้วยกิจกรรมของชมรม ที่มีการนิมนต์พระสงฆ์มาเทศนา และสอนวิธีการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน สัปดาห์ละ1 – 2 ครั้ง หลังเลิกงาน 
        คุณวิชาญจึงไม่ลืมที่จะนำแนวทางแห่งพุทธศาสนามาปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน นั่นก็คือ การสวดมนต์
        คุณวิชาญเริ่มฝึกการสวดมนต์ภาวนา ด้วยการสวดบทพาหุงและบทอิติปิโส ในจำนวนครั้งเท่ากับอายุตัวเองบวกหนึ่งจนจบ จากนั้นต่อด้วยบทแผ่เมตตา ให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้ที่เคยโกรธเกลียดกันมาก่อน ยิ่งไม่ชอบหน้ากันมากเท่าไร คุณวิชาญก็ยิ่งสวดมนต์แผ่เมตตาให้เขามากขึ้นเท่านั้น
        ผลของการสวดมนต์ ไม่เพียงทำให้คุณวิชาญได้รับความเมตตาจากคนที่เขาเคยโกรธ เคยไม่ชอบหน้าเท่านั้น ทว่าอานิสงส์ของการสวดมนต์ ยังส่งผลไปถึงลูกสาวของคุณวิชาญที่อยู่ไกลถึงรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย
        เหตุการณ์ในครั้งนั้นเริ่มขึ้นจากวันหนึ่งลูกสาวคุณวิชาญโทรศัพท์มาจากอเมริกา เพื่อขอให้ผู้เป็นพ่อซื้อรถยนต์ให้ใช้ขณะอยู่ที่นั่น แต่คุณวิชาญปฏิเสธไปว่าไม่เห็นด้วย เนื่องจากลูกสาวเพิ่งย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ยังไม่คุ้นกับถนนหนทางดีนัก



        หนึ่งเดือนผ่านไป หลังจากที่โครงการซื้อรถยนต์ต้องล้มเลิก คุณวิชาญก็ไม่ได้โทรศัพท์ไปหาลูกสาวอีกเลย แต่อยู่ๆ ขณะที่คุณวิชาญกำลังสวดมนต์ และภาวนาขอให้พระพุทธพระธรรม และพระสงฆ์คุ้มครองลูกสาว เช่นที่เคยปฏิบัติ จิตใจของคุณวิชาญกลับรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ไม่สงบนิ่งเหมือนครั้งก่อนๆ ทว่า คุณวิชาญก็พยายามควบคุมสติแล้วเริ่มต้นสวดมนต์อีกครั้ง กลับไปกลับมาจนจบบท พร้อมด้วยลางสังหรณ์ที่เกิดขึ้นในใจว่า คงจะเกิดอะไรขึ้นสักอย่างกับลูกสาว ยิ่งคุณวิชาญได้เห็นข้าวของเครื่องใช้ และรูปของลูกสาวด้วยแล้ว ความรู้สึกคิดถึงลูกจับใจ ก็ผุดขึ้นมาอย่างประหลาด

        เมื่อไม่ได้รับการติดต่อจากลูกสาว คุณวิชาญจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปที่หอพักของมหาวิทยาลัย คนที่รับสายคือเจ้าหน้าที่หอพัก น้ำเสียงรีบร้อนบอกว่า จะไปตามลูกสาวให้มารับสาย
จากนั้นไม่กี่นาที เสียงจากปลายสายก็ดังเข้ามาเป็นเสียงลูกสาวของคุณวิชาญอย่างที่คาด แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรกัน ลูกสาวก็ส่งสายต่อให้ผู้ประสานงานที่ทำหน้าที่ดูแลเด็กนักเรียนต่างชาติ

        “คุณพ่อใจเย็นๆ อย่าเพิ่งดุลูกสาวนะคะ เธอกำลังตกใจอยู่ ” ผู้ประสานงานเริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก พร้อมกับบอกว่า ลูกสาวคุณวิชาญเพิ่งรอดตายอย่างน่าอัศจรรย์จากอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันกลางสี่แยกของมหาวิทยาลัยโดยคู่กรณีที่ถูกชนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บและความเสียหายแต่อย่างใด ส่วนลูกสาวคุณวิชาญนั้นมีเพียงแผลฟกช้ำดำเขียวเล็กน้อย แต่รถยนต์ที่ขับมานั้นขาดเป็นสองท่อน สภาพไม่ต่างจากเศษเหล็ก!

        วันที่เกิดเหตุเป็นวันที่ลูกสาวคุณวิชาญแอบไปซื้อรถยนต์และเพิ่งขับออกมาทั้งๆ ที่ยังไม่มีประกันใดๆ ด้วยความรีบร้อนจะกลับให้ถึงมหาวิทยาลัยก่อนค่ำ ทำให้เธอขับรถด้วยความเร็วสูง
        เมื่อใกล้ถึงสี่แยกจึงไม่ทันระวังและฝ่าไฟแดงไปประสานงากับรถของอีกฝ่ายอย่างแรง จนรถที่ทำจากเหล็กชั้นดีฉีกเป็นสองท่อนตรงบริเวณหลังของคนขับพอดิบพอดีผู้ที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็กรูกันเข้ามาช่วยโดยที่ไม่คิดว่าจะมีใครรอดชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนี้

        แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ที่มุงดูประหลาดใจเป็นอันมากก็คือ ภาพของลูกสาวคุณวิชาญที่ค่อยๆ ปลดเข็มขัดนิรภัยและก้าวลงจากรถโดยที่แทบจะไม่มีบาดแผลตามตัวเลยแม้แต่น้อย นอกจากสีหน้าที่แสดงอาการตื่นตกใจอย่างที่สุด
        ที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ วันและเวลาที่เกิดเหตุตรงกับช่วงเวลาที่คุณวิชาญกำลังสวดมนต์และแผ่เมตตาให้ลูกสาวอยู่ที่เมืองไทยพอดิบพอดี!



        เมื่อได้ฟังเรื่องราวของผลานิสงส์จากการสวดมนต์ระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยแล้ว ให้นึกถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นที่พื้นที่ภาคใต้ของไทยเรา ความยากลำบากทั้งความทุกข์กาย ทุกข์ใจ ที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญหน้ากันอยู่ นึกสภาพคนชรา คนป่วย เด็กเล็ก นับว่าน่าเห็นใจอย่างยิ่ง 
        ดังนั้นเราคนไทยไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว สามารถช่วยส่งกำลังใจ กำลังทรัพย์ หรือปัจจัยต่างๆ เพื่อการยังชีพของพี่น้องภาคใต้ที่กำลังประสบทุกข์อย่างมาก  ที่ยิ่งกว่านั้นที่ทุกคนทำได้ทุกที่ ทุกเวลาที่สะดวก คือ การส่งกระแสจิตที่ดีงามจากการทำความดีอะไรก็แล้วแต่ หรือที่เราได้สวดมนต์ ภาวนา ทำจิตเป็นสมาธิแล้วตั้งจิตอธิษฐานให้เหตุการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วม บรรเทาลง ขอให้เหตุการณ์เป็นปกติโดยเร็ว 

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก 
1. เรื่อง นู๋กล้วย เรียบเรียงจากหนังสือ “กฎแห่งกรรม – ธรรมปฏิบัติ” เล่มที่ 10, หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม แห่งวัดอัมพวัน
http://www.goodlifeupdate.com/40026/healthy-mind/praypower/
2.ขอบคุณภาพจาก google

16 ความคิดเห็น:

  1. บุญอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง
    สวดแบบใจใสๆๆเดี๋ยวอะไร
    อะไรก็ดีขึ้น. (. น้ำขึ้นได้. ลดได้. )
    แต่บุญถ้าสะสมต่อเนื่องมีแต่ขึ้นนะค่ะ
    จิตใจดีขึ้น. สุขภาพดีขึ้น. 🙏🙏🙏

    ตอบลบ
  2. เชื่อมั่นเรื่องอานิสงส์ของการสวดมนต์และแผ่เมตตาจริงๆ ค่ะ

    ตอบลบ
  3. อานุภาพพระรัตนตัรยไม่มีประมาณ

    ตอบลบ
  4. มาสวดมนต์กันทุกวันนะคะ แล้วสิ่งดีดีจะเกิดขึ้นกับเรา เพราะ พระรัตนตรัย คือ ที่พึ่งอันสูงสุดของเราทั้งหลาย สาธุๆค่ะ

    ตอบลบ
  5. สาธุค่ะ เรียนเชิญมาสวดธัมมจักก์ฯ กันทั้งครอบครัวนะคะ สวดมนต์แล้วมีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต สิ่งไม่มีมลายหายสูญค่ะ

    ตอบลบ
  6. สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน ผลบุญของการสวดมนต์สุดจะพรรณา สาธุๆๆ

    ตอบลบ
  7. มาสวดมนต์กันทุกวันนะคะ แล้วสิ่งดีดีจะเกิดขึ้นกับเรา เพราะ พระรัตนตรัย คือ ที่พึ่งอันสูงสุดของเราทั้งหลาย สาธุๆค่ะ

    ตอบลบ
  8. สวดมนตร์ เป็นสมาธิเบื้องต้น

    ตอบลบ
  9. พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกสูงสุดสิ่งอื่นไม่มี

    บุญคือคุณเครื่องของความสุขและความสำเร็จทุกประการ

    เราใช้บุญไปทุกๆวินาที เราก็ต้องหมั่นทำบุญ ตลอดเวลา ให้บุญทับทวี

    ตอบลบ
  10. ยิ่งอ่านแล้ว..พวกเราต้องยิ่งสวดให้มากๆขึ้น..จะได้พ้นเคราะห์กรรม

    ตอบลบ
  11. บุญบาปมีจริง ส่งผลจริงๆค่ะ

    ตอบลบ
  12. สวดมนต์ ถ้าผู้สวดน้อมใจให้สงบนิ่งไปตามคำสวด ก็เหมือนการทำสมาธิอย่างหนึ่งย่อมมีผลแน่นอนค่ะ

    ตอบลบ
  13. สวดธัมจักมีอานิสงส์มากขอเรียนเชิญทุกๆท่านมาสวดด้วยกันนะค่ะ

    ตอบลบ
  14. พุทธนุภาพมีคุณอัศจรรย์ ชีวิตรอดปลอดภัยอย่างอัศจรรย์จริงๆ สาาธุ

    ตอบลบ
  15. สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน ถ้าทั้งกินทั้งทา ก็อยู่รอดปลอดภัยเอย.

    ตอบลบ
  16. พระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งที่ระลึก อันสูงสุด สิ่งอื่นที่จะเป็นที่พึ่งที่ระลึก ยิ่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

    ตอบลบ