สุนัขจิ้งจอกผู้ทำหน้าที่เป็นตุลาการ ตัดสินข้อพิพาทให้นากสองตัวที่แย่งปลาตะเพียนกัน...ความยุติธรรมจะเกิดขึ้นได้หรือไม่?

01:21 Mali_Smile1978 2 Comments

"ตาอินกะตานา หาปลาเอามากินกัน
ได้ปลาทุกวัน รักกันก็ปันกันไป
หาปลามานมนาน หาปลามาบานตะไท
จนแม้ ใคร ใคร รู้น้ำใจไมตรีปรีดา
แต่แล้ววันหนึ่ง เคราะห์มาถึงขมึงทึงมา
สองคนถึงครา แย่งหัวปลาหางปลากันเกรียว
ตาอินกะตานา โศกาอาวรณ์จริงเจียว
ตาอยู่มา เดี๋ยว เดียว
คว้าพุงเพรียวเพรียวไปกิน..."


@hhttps://goo.gl/rgkGz6


หลายท่านเคยได้ฟังและร้องเพลงตาอินตานากันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถมกระทั่งปัจจุบันนี้คิดว่าเราคงยังจดจำบทเพลงนี้ได้เนาะ

     พอดีได้อ่านธรรมบท เห็นว่าเนื้อหาของเพลงตาอินตานา คล้ายกับเค้าโครงเรื่องหนึ่งในธรรมบท ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจริงในอดีตกาล จึงนำมาบอกเล่าเป็นปกิณกธรรมกันค่ะ 

     เรื่องพระอุปนันทะศากยบุตร เป็นผู้ฉลาดในธรรมกถาการสั่งสอนผู้อื่น โดยท่านจะสอนผู้อื่นไม่ให้มีความละโมบ ให้มีความมักน้อย และท่านจะพรรณนาอานิสงส์ของความมักน้อย(อัปปิจฉตา) และความขัดเกลากิเลสในรูปแบบของธุดงควัตร(ธุตังคะ) อยู่เป็นนิตย์ แต่ในทางปฏิบัตินั้น ท่านมิได้ปฏิบัติตามที่ท่านสอน หากแต่ได้ไปนำเอาจีวรและปัจจัยอื่นๆ ที่คนถวายแก่พระรูปอื่นมาเป็นของตัวเอง


     คราวหนึ่ง พระอุปนันทะได้พบ พระภิกษุหนุ่ม ๒ รูปกำลังทะเลาะวิวาทกันเพราะได้จีวรมา ๒ ผืนและผ้ากัมพล ๑ ผืนแล้วแบ่งกันไม่ลงตัว เมื่อพระทั้งสองรูปเห็นพระอุปนันทะมาก็ได้ขอร้องให้ท่านช่วยเป็นตุลาการตัดสินข้อพิพาทแย่งชิงผ้ากันในครั้งนี้ ท่านก็ได้ตัดสินให้พระแต่ละรูปได้จีวรไปรูปละผืน ส่วนท่านเองได้ผ้ากัมพลราคาแพงในฐานะทำหน้าที่เป็นตุลาการ

     พระภิกษุทั้งสองรูปไม่พอใจกับการตัดสินนั้น แต่ก็ไม่ทราบว่าจะโต้แย้งอย่างไร จึงได้นำความขึ้นกราบทูลพระศาสดา และพระศาสดาตรัสว่า พระอุปนันทะมิใช่จะสร้างความเดือนร้อนให้แก่พระทั้งสองรูปแต่เฉพาะในชาตินี้เท่านั้น แต่ยังเคยสร้างเรื่องเดือดร้อนแบบนี้ในอดีตเหมือนกัน จากนั้นได้ทรงนำเรื่องในอดีตมาเล่าว่า นากสองตัว ไปได้ปลาตะเพียนมาตัวหนึ่ง เกิดทะเลาะกันเพราะไม่สามารถแบ่งปลาตะเพียนตัวนั้นอย่างไรดี เมื่อสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งเดินผ่านมา จึงได้ขอร้องให้สุนัขจิ้งจอกตัวนั้น ช่วยทำหน้าที่เป็นตุลาการระงับข้อพิพาท ข้างสุนัขจิ้งจอกก็ได้ตัดสินให้นากตัวหนึ่งได้ส่วนหางของปลาตะเพียน ให้นากอีกตัวหนึ่งได้ส่วนหัวของปลาตะเพียน สำหรับส่วนกลางของปลาตะเพียนให้ตกเป็นของ
สุนัขจิ้งจอกผู้ทำหน้าที่เป็นตุลาการ 


     นากสองตัวในอดีตก็คือพระภิกษุสองรูปในปัจจุบัน ส่วนสุนัขจิ้งจอกในอดีตก็คือพระอุปนันทะ หลังจากที่ได้ทรงเล่าอดีตนิทานจบลงแล้ว เมื่อจะทรงติเตียนพระอุปนันทะ จึงตรัสว่า 
“ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาผู้จะสั่งสอนผู้อื่น 
พึงให้ตนตั้งอยู่ในคุณอันสมควรเสียก่อนทีเดียว”

ขอบคุณเนื้อหาและภาพจาก

- http://dhammapadasstories.blogspot.com/2014/12/02_26.html
https://goo.gl/QdHAHM
- https://goo.gl/9Eh84i

2 ความคิดเห็น:

  1. โบราณจึงว่า "อย่าหาความยุติธรรมจากคนพาล"
    เหมือนคั้นน้ำมันจากเม็ดทราย คั้นให้ตายก็ไม่ได้น้ำมัน
    กี่ร้อยกี่พันปีก็ไม่ได้ เพราะความยุติธรรม ย่อมไม่มีในหมู่คนพาล
    ผู้ทำหน้าที่การงานด้วยอคติ ๔

    ให้ทำอย่างไร ?
    "ไม่สู้ ไม่หนี อดทน ทำความดีเรื่อยไป"
    หมดวิบากกรรมชั่วเมื่อใด วิบากกรรมดีได้ช่องเมื่อไร
    ก็จะได้ความยุติธรรมกลับคืนมา

    อนุโมทนาสาธุ

    ตอบลบ
  2. อย่าให้คนพาลเป็นหัวหน้า ขอนี้เห็นได้ชัดเจนกับสถานการณ์ปัจจุบัน

    ตอบลบ