วิธีที่คุณคิดและทำ สามารถเปลี่ยนประสบการณ์ทางความเครียดของคุณได้อย่างไร?

06:46 Mali_Smile1978 0 Comments

     
นักจิตวิทยา เคลลี่ แมคกอนิกัล



         ความเครียด มันทำให้หัวใจคุณเต้นแรง ลมหายใจถี่ขึ้น และเหงื่อออกบนหน้าผาก แต่ขณะที่ความเครียดกลายเป็นศัตรูทางสุขภาพของคนส่วนใหญ่นั้น งานวิจัยชิ้นใหม่เสนอว่าความเครียดจะไม่ดีต่อคุณก็ต่อเมื่อคุณเชื่อว่ามันเป็นแบบนั้นเท่านั้น นักจิตวิทยา เคลลี่ แมคกอนิกัล ชวนให้พวกเรามองความเครียดในด้านบวก และแนะนำเราให้รู้จักกับกลไกที่ไม่ได้รับการเอ่ยถึงมาก่อนสำหรับการลดความเครียด นั่นก็คือการเข้าหาผู้อื่น

     เคลลี่เป็นนักจิตวิทยา และภารกิจของเธอ คือการช่วยให้คนมีความสุขมากขึ้นและสุขภาพดีขึ้น

     แต่แล้วเธอก็กลัวว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมานั้น เมื่อพูดถึงความเครียดแล้วจะเป็นโทษมากกว่าประโยชน์ เพราะหลายปีที่ผ่านมา เธอเฝ้าบอกผู้คนว่าความเครียด มันเพิ่มความเสี่ยงในทุกๆ ด้าน จากไข้หวัดธรรมดาไปจนถึงโรคหัวใจ

     โดยพื้นฐานเธอทำให้ความเครียดเป็นศัตรู แต่ปัจจุบันเธอได้เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับความเครียดแล้ว และวันนี้เธออยากจะเปลี่ยนความคิดของคนอื่นด้วย


งานวิจัยที่ทำให้เคลลี่ต้องคิดใหม่เกี่ยวกับวิธีการมองความเครียดของเธอ

     งานศึกษาชื้นนี้ติดตามผู้ใหญ่จำนวน 30,000 คนในสหรัฐฯ เป็นเวลา 8 ปี และพวกเขาเริ่มถามผู้คนว่า 
...คุณมีความเครียดมากแค่ไหนปีที่ผ่านมา? 
พวกเขาถามด้วยว่า
...คุณเชื่อหรือเปล่า ความเครียดเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ 
แล้วพวกเขาก็ดูที่สถิติการตายของรัฐ เพื่อดูว่าใครบ้างที่ตายแล้ว


เคลลี่นำเสนอเริ่มที่ข่าวร้ายก่อน 
     - คนที่มีความเครียดมากๆ ในช่วงปีก่อนหน้า มีความเสี่ยง 43 % ที่จะเสียชีวิต แต่นั่นเป็นจริงเฉพาะคนที่เชื่อว่าความเครียดนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเขา

     - คนที่เจอความเครียดมากๆ แต่ไม่ได้มองว่าความเครียดอันตราย มีความเป็นไปได้น้อยกว่าที่จะตาย ที่จริงแล้ว พวกเขามีความเสี่ยงในการตายน้อยที่สุดเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ ในงานวิจัย ซึ่งรวมถึงกลุ่มคนที่มีความเครียดน้อยด้วย

     - นักวิจัยประมาณการว่า ในช่วง 8 ปีที่พวกเราติดตามตัวเลขการเสียชีวิต คนอเมริกัน 182,000 คน ตายก่อนวัยอันควร ไม่ใช่เพราะความเครียด แต่เป็นเพราะเชื่อว่าความเครียดนั้นไม่ดีกับตัวเขา  

     คุณจะเห็นได้ว่าทำไมงานวิจัยชิ้นนี้ถึงทำให้เคลลี่เปลี่ยนไป เธอใช้พลังงานมากมายในการบอกผู้คนว่า ความเครียดนั้นแย่สำหรับสุขภาพของคุณ
     งานวิจัยชิ้นนี้ทำให้เคลลี่เกิดข้อสงสัย การเปลี่ยนความคิดที่คุณมีต่อความเครียดจะทำให้คุณ มีสุขภาพที่ดีขึ้นได้หรือไม่ และวิทยาศาสตร์ก็ได้บอกว่า ใช่ เมื่อคุณเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับความเครียด คุณจะสมารถเปลี่ยนการตอบสนองของร่างกายของคุณที่มีต่อความเครียดได้

เคลลี่จะอธิบายว่า มันทำงานอย่างไร???

     ถ้าคุณเข้าไปอยู่การทดสอบที่ต้องเจอกับภาวะความเครียดมากๆ แล้ว หัวใจของคุณอาจจะเต้นแรง คุณอาจจะหายใจเร็วขึ้น อาจจะเหงื่อแตก และโดยทั่วไป เราแปลความหมายของการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเหล่านี้ว่า ความวิตกกังวล หรือสัญญาณที่ว่า เราจัดการกับความเครียดได้ไม่ดีนัก 

     แต่ถ้าหากคุณมองพวกมันเป็นสัญญาณที่ว่า ร่างกายของคุณมีชีวิตชีวาขึ้นล่ะ เป็นการเตรียมตัวที่จะได้เจอกับความท้าทายนี้ล่ะ นั่นคือสิ่งที่ผู้เข้าร่วมวิจัยถูกบอก ในงานวิจัยที่ทำโดยมหาวิทยาลัยฮาร์ดวาร์ด ก่อนที่พวกเขาจะเข้าทำการทดสอบความเครียดทางสังคม พวกเขาถูกสอนให้คิดเกี่ยวกับปฏิกิริยาตอบสนองความเครียดเสียใหม่ว่า มีประโยชน์ ที่ว่า

- หัวใจที่เต้นแรงช่วยทำให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับการกระทำ 
- ถ้าคุณหายใจเร็วขึ้น นั่นไม่ใช่ปัญหา มันทำให้ออกซิเจนไปที่สมองคุณมากขึ้น 


     และผู้เข้าร่วมซึ่งเรียนรู้ว่าปฏิกิริยาตอบสนองความเครียดนั้น เป็นประโยชน์ต่อความสามารถของพวกเขา  พวกเขาเครียดน้อยลง กังวลน้อยลง มั่นใจมากขึ้น แต่ข้อค้นพบที่น่าทึ่งที่สุดสำหรับเคลลี่ คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับปฏิกิริยาทางร่างกายของพวกเขาที่ตอบสนองต่อความเครียด
     ในการตอบสนองความเครียดโดยทั่วไป อัตราการเต้นหัวใจของคุณสูงขึ้นและเส้นเลือดของคุณจะหดตัวลง และนี่คือหนึ่งในเหตุผลทั้งหลายที่ว่าความเครียดเรื้อรัง บางครั้งมีผลเกี่ยวพันกับโรคหัวใจ มันไม่ดีต่อสุขภาพเลย ที่จะต้องอยู่ภายในภาวะแบบนี้ตลอดเวลา

     แต่ในงานวิจัยนี้ เมื่อผู้เข้าร่วมมองว่า ปฏิกิริยาตอบสนองความเครียดนั้นมีประโยชน์  เส้นเลือดของพวกเขาจะผ่อนคลาย หัวใจของพวกเขายังเต้นแรง แต่มันเป็นระบบหัวใจและหลอดเลือดที่ดูมีสุขภาพดีกว่า ที่จริง สภาพมันดูเหมือนกับตอนที่คนเราอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสุขและกล้าหาญ 

     ตลอดชีวิตที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ความเครียดต่างๆ การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพนี้ สามารถทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างหัวใจวายจากความเครียดตอนอายุ 50 กับการอยู่ดีมีสุขจนถึงอายุ 90 และนี่คือสิ่งทีวิทยาศาสตร์ด้านความเครียดแนวใหม่เปิดเผยออกมา ว่า วิธีที่คุณคิดเกี่ยวกับความเครียดนั้นสำคัญ 

      เวลาที่คุณเจอความเครียดมากๆ เวลาที่หัวใจคุณเต้นแรงเพราะความเครียด คุณจะต้องบอกกับคุณเองว่า นี่คือการที่ร่างกายของฉันกำลังช่วยฉันให้ลุกขึ้นสู้ต่อความท้าทายนี้ และเมื่อคุณมองความเครียดในทางนั้น ร่างกายของคุณจะเชื่อคุณ และความเครียดองคุณจะดีต่อสุขภาพมากขึ้น 


มารู้จักฮอร์โมนคลอเคลีย 

     เคลลี่ ใช้เวลามากกว่าสิบปี ในการมองความเครียดเป็นมารร้าย ที่เธอต้องการปลดปล่อยตัวเองออกจากมัน ดังนั้น เธออยากจะบอกเกี่ยวกับหนึ่งในด้านที่ถูกมองข้ามมากที่สุดในปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียด และความคิดนี้ก็คือ  ความเครียดทำให้คุณเข้าสังคม 


     ในการที่จะเข้าใจความเครียดในด้านนี้ เราต้องพูดเกี่ยวกับฮอร์โมนที่ชื่อว่า ออกซิโทซิน  ออกซิโทซิน ได้รับการพูดถึงอย่างมาก ฮอร์โมนนี้มีชื่อเล่นๆ น่ารักๆ ว่า ฮอร์โมนคลอเคลีย เพราะมันจะถูกหลั่งออกมาเมื่อคุณกอดใครสักคน แต่นี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่ออกซิโทซินเกี่ยวข้อง 

     ออกซิโทซินเป็นฮอร์โมนประสาท มันปรับสัญชาตญาณการเข้าสังคมของสมองของคุณ 

     มันตระเตรียมคุณให้ทำอะไรๆ ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์แบบใกล้ชิด ออกซิโทซินทำให้คุณต้องการการสัมผัสทางกาย กับเพื่อนและครอบครัวของคุณ มันเพิ่มการเห็นอกเห็นใจของคุณ มันจะทำให้คุณอยากที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนคนที่คุณเป็นห่วงเป็นใย บางคนแนะนำแม้กระทั่งว่า เราควรพ่นออกซิโทซินออกทางจมูก เพื่อจะได้มีความเห็นอกเห็นใจและห่วงใยมากขึ้น 

     แต่เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับออกซิโทซิน มันคือฮอร์โมนความเครียด ต่อมใต้สมองของคุณผลิตเจ้าสารตัวนี้ออกมา มันเป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองต่อความเครียด มากพอๆ กับอะดรีนาลีนที่ทำให้หัวใจคุณเต้นแรง 

     และเมื่อออกซิโทซินถูกปล่อยออกมาเพื่อตอบสนองความเครียด มันจะกระตุ้นให้คุณมองหากำลังใจ ปฏิกิริยาตอบสนองความเครียดทางชีวภาพได้กระตุ้นให้คุณบอกใครสักคนว่าคุณรู้สึกยังไง มากกว่าที่จะเก็บกดมันเอาไว้ ปฏิกิริยาตอบสนองความเครียดของคุณต้องการที่จะแน่ใจว่า คุณสังเกตเห็นว่าใครสักคนในชีวิตคุณกำลังลำบาก เพื่อที่ว่าคุณจะได้เป็นกำลังใจให้กันและกัน เมื่อชีวิตตกที่นั่งลำบาก ปฏิกิริยาสนองความเครียดของคุณต้องการให้คุณถูกห้อมล้อมไปด้วยคนที่ห่วงใยคุณ 

แล้วเราได้รู้จักด้านนี้ของความเครียดจะทำให้คุณสุขภาพดีขึ้นได้ยังไง 

ฮอร์โมนออกซิโทซินมีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

     ก็ออกซิโทซินมันไม่ได้แค่มีผลต่อสมองเท่านั้น มันยังมีผลต่อร่างกายของคุณด้วย และหนึ่งในบทบาทหลักของมันที่มีต่อร่างกายคุณ ก็คือ เพื่อป้องกันระบบหัวใจและหลอดเลือดของคุณ จากผลลัพธ์ทางความเครียดต่างๆ มันเป็นยาแก้อักเสบแบบธรรมชาติ มันยังช่วยให้หลอดเลือดคุณผ่อนคลายระหว่างเครียดอีกด้วย 
     แต่ผลที่มีต่อร่างกายที่เคลลี่ชอบมาก คือ ผลที่มีต่อหัวใจ หัวใจของคุณมีหน่วยรับเจ้าฮอร์โมนนี้ และออกซิโทซินช่วยผลิตและรักษาเซลล์หัวใจที่เสียหายจากความเครียด ฮอร์โมนความเครียดตัวนี้ทำให้หัวใจของคุณแข็งแรงขึ้น 

     และสิ่งที่เจ๋งก็คือว่า ประโยชน์ต่อร่างกายของออกซิโทซินทั้งหมดนี้ เพิ่มขึ้นด้วยการพบปะทางสังคมและการเกื้อหนุนทางสังคม

อีกชิ้นหนึ่งของงานวิจัย ฟังให้ดีเพราะงานวิจัยชิ้นนี้สามารถช่วยชีวิตได้ด้วย

- งานศึกษานี้ติดตามผู้ใหญ่ 1,000  คนในสหรัฐฯ พวกเขาอยู่ในช่วงอายุ 34 – 93 
- งานวิจัยเริ่มต้นด้วยการถามว่า คุณเจอความเครียดมากแค่ไหนในปีที่ผ่านมา
- พวกเขาถามด้วยว่า คุณใช้เวลามากแค่ไหนในการช่วยเหลือเพื่อน เพื่อนบ้าน และคนอื่นๆ ในชุมชนของคุณ
- แล้วพวกเขาก็ดูที่สถิติของรัฐในห้าปีถัดมาว่า ใครตายไปบ้าง


     เอาข่าวร้ายก่อน สำหรับความเครียดหนักมากๆ ในชีวิต เช่น ความลำบากทางการเงิน หรือวิกฤตครอบครัวนั่น เพิ่มความเสี่ยงในการตายไป 30 % แต่นั่นไม่จริงสำหรับทุกคน 
     คนที่ใช้เวลาไปกับการดูแลคนอื่น ได้แสดงให้เห็นว่า ไม่มีการเพิ่มขึ้นของการตายที่เกี่ยวข้องกับความเครียดเลย เป็นศูนย์ การดูแลห่วงใยได้สร้างการฟื้นฟูขึ้น

     เราได้เห็นอีกครั้งว่าผลลัพธ์ที่อันตรายของความเครียดที่มีต่อสุขภาพของคุณเป็นเรื่องที่หลักเลี่ยงไม่ได้ วิธีที่คุณคิดและทำ สามารถเปลี่ยนประสบการณ์ทางความเครียดของคุณได้ 

>>> เมื่อคุณเลือกที่จะมองว่าปฏิกิริยาสนองความเครียดของคุณมีประโยชน์ คุณได้สร้างชีววิทยาของความกล้าหาญขึ้น  
>>> และเมื่อคุณเลือกที่จะสัมพันธ์กับผู้อื่นระหว่างที่เครียด คุณสามารถสร้างการฟื้นฟูได้ 
     


ขอขอบคุณข้อมูล https://www.ted.com/talks/kelly_mcgonigal_how_to_make_stress_your_friend
- https://www.ted.com/talks/kelly_mcgonigal_how_to_make_stress_your_friend?language=th

0 ความคิดเห็น: