แย้มแผนปฎิรูป'พุทธศาสนา' ฉบับมหาเถรสมาคม!! ว่ามีอะไรบ้างและมีเป้าหมายสูงสุดอย่างไร??
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีโอกาสไปฟังการสัมมนา “นโยบายคณะสงฆ์กับแนวทางการปฎิรูปกิจการพระพุทธศาสนา 4.0” บรรยายโดย พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคมและประธานคณะกรรมการฝ่ายสงศึกษาสงเคราะห์ ที่แต่งตั้งโดยที่ประชุม มหาเถรสมาคม ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้คนห่างวัดแบบผมเข้าใจภารกิจและบทบาทของมหาเถรสมาคมและการเอาจริงเอาจังในการปฎิรูปกิจการพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ไทยมากยิ่งขึ้นว่า “ท่านกำลังทำอะไร และจะมุ่งเป้าหมายไปที่ไหน??”
ท่านเจ้าคุณพระพรหมบัณฑิต ได้เล่าบรรยายให้คณะสงฆ์เห็นภาพเป้าหมายของยุทธศาสตร์ของรัฐบาลตอนนี้คืออะไร?? เพื่อมิให้คณะสงฆ์กลายเป็นองค์กรตกยุคหรือคนล้าหลังสังคม เพราะตลอดระยะเวลา 3 ปีมานี้ รัฐบาลมุ่งหวังจะปฎิรูปประเทศไทยเพื่อก้าวไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน และหากบรรลุเป้าหมายในการปฎิรูปประเทศไทยได้จริง สังคมไทยก็จะนำไปสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี คือกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วเหมือน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นหรือสิงคโปร์ นี่คือภาพฝันของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
โดยตอนนี้ “กับดัก” สำคัญๆ ของประเทศไทยพระคุณเจ้าได้ชี้ให้เห็น 2 ประเด็นใหญ่ๆ คือ
1.ความแตกแยกของคนในสังคม
2.การทุจริตคอร์รัปชั่น
และท่านยังได้ชี้ให้เห็นว่าตอนนี้คณะสงฆ์กำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแผนการปฎิรูปกิจการพระพุทธศาสนาตามที่มหาเถรสมาคมในฐานะองค์กรสูงสุดของ สถาบันสงฆ์ไทยได้กำหนดไว้ซึ่งมี 6 ด้าน บวก 1 ดังนี้
1.ด้านการปกครอง 2.ด้านการศาสนศึกษา 3.ด้านการเผยแผ่ 4.ด้านการสาธารณูปการ 5.ด้านการศึกษาสงเคราะห์ 6. ด้านการสาธารณะสงเคราะห์ และสุดท้ายด้านการพัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก เมื่อขมวดเป้าหมายการปฎิรูปของคณะสงฆ์แล้วก็จะเห็นว่า...
มหาเถรสมาคมมีความมุ่งหวังให้ “พระสงฆ์และวัดเป็นแกนนำเป็นศูนย์กลางของชุมชน” ดังในอดีต สรุปง่ายๆ ก็คือว่า ตอนนี้คณะสงฆ์กำลังปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อทวงบทบาทในอดีตกลับคืนมา ตอนนี้กำลังระดมความคิดเห็นจากคณะสงฆ์ทั่วประเทศ เพื่อนำไปยกร่างยุทธศาสตร์การปฎิรูปกิจการคณะสงฆ์ระยะ 5 ปี
เรื่องการปฎิรูปพระพุทธศาสนาถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในวงการคณะสงฆ์ เพราะที่ผ่านมาสถาบันสงฆ์ไม่เคยมีแผนยุทธศาสตร์การปฎิรูปกิจการพระพุทธศาสนาเป็นของตัวเองเลย ทุกอย่างอาศัยฆราวาส รัฐบาลดำเนินการให้หมด ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในห้วงใช้แผนพัฒนาประเทศไทยฉบับที่ 12 แต่คณะสงฆ์เพิ่งเริ่มจะต้นจะร่างแผน
เพราะฉะนั้นสังคมไทยจะเห็นว่า ในอดีตคณะสงฆ์ทำอะไรมักไม่มีแบบแผนหรือเป้าหมาย ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างอยู่ หากคณะสงฆ์มีแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวข้างต้นก็จะสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี คือ “คณะสงฆ์ ไทยก็อาจจะทันสมัยยิ่งขึ้น ไม่กลายเป็นกลุ่มคนที่ล้าหลังในสังคม” ซึ่งรายละเอียด คณะสงฆ์ก็ลองไปอ่านดูในแผนยุทธศาสตร์การปฎิรูปกิจการพระพุทธศาสนาฉบับมหาเถรสมาคมที่เจ้าคุณพระราชวรเมธี รองอธิการบดีมหาจุฬาฯ ไประดมความคิดเห็นมา
แต่เอาเถอะ การปฎิรูปคณะสงฆ์ หรือการเขียนแผนยุทธศาสตร์เพื่อพระพุทธศาสนาในครั้งนี้ มหาเถรสมาคมเองก็คงคิดได้ว่า“คณะสงฆ์ปัดกวาดบ้านตัวเองดีกว่าให้คนอื่นมาปัดกวาดให้” สำหรับผมขอฝากถึงทั้งรัฐบาลและมหาเถรสมาคมว่า จะปฎิรูปหรือเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามในสถาบันสงฆ์ คณะสงฆ์ต้องรักษายึดมั่นอุดมการณ์ของพระพุทธเจ้าที่ทรงตรัสแก่พระสาวกก่อนประกาศพระพุทธศาสนาว่า...
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงเที่ยวจาริกไป เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์แก่ชาวโลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย...”
….......................................
CR.คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย “เปรียญ10”:riwpaalueng@gmail.com
ขอขอบคุณ กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
https://www.dailynews.co.th/article/590503
0 ความคิดเห็น: